556 จำนวนผู้เข้าชม |
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าธัญพืชเมล็ดจิ๋วอย่างงาดำและงาม้อน (หรืองาขี้ม่อน) ต่างก็มีสรรพคุณที่โดดเด่นมาก ๆ ไม่แพ้กันเลย ถึงแม้ว่าทั้งงาดำและงาม้อน ได้ถูกเรียกว่า “งา” เหมือนๆ กัน แต่ความจริงแล้วงาม้อน ไม่ได้เป็นพืชในตระกูลเดียวกับงา แต่อยู่ในตระกูลเดียวกับกระเพรา โหรพา แมงลัก
กับงาดำและงาม้อนกันมีประโยชน์เด่นอะไรบ้าง?
งาดำ เป็นธัญพืชที่ทุกๆคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และมีสรรพคุณล้นเหลือที่ทั่วโลกได้ให้การยอมรับ จึงมีงานวิจัยเกี่ยวกับงาดำในแง่มุมต่าง ๆ มากมาย มีการค้นคว้าเพื่อทำเป็นสารสกัดในรูปแบบต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในลักษณะธรรมชาติบำบัด
ในงาดำมีสารอาหารสำคัญมากมายเช่นสารเซซามิน เซซามอล เซซาโมลิน โอเมก้า 3 6 9 วิตามินบี เหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โปรแตสเซียม ทองแดง
โดยเฉพาะสารเซซามิน ซึ่งเป็นสารที่นักวิจัยมากมายต่างให้ความสนใจค้นกว้า ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าสารเซซามินสามารถยับยั้งการสลายของกระดูกอ่อนและภาวะกระดูกพรุน นอกจานั้นยังมีประโยชน์ต่อตับ ไต และทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบได้ดีอีกด้วย
งาม้อน เป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 6 9 โดยเฉพาะโอเมก้า 3 มีมากถึง 54%-64% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นแหล่งโอเมก้าที่สูงมากในบรรดาแหล่งโอเมก้าทั้งหลาย ไม่ว่าจากพืชหรือจากสัตว์
ในงาม้อนมีสารเซซามอล ที่สามารถช่วยชะลอความแก่ ลดความเสี่ยงการเกิดเนื้อร้าย และเนื่องจากงาม้อนเป็นพืชที่มีมีโอเมก้า 3 สูง จึงช่วยต้านการอักเสบ และยับยั้งการสลายตัวของกระดูกอ่อนได้ดี
งาม้อนมีโอเมก้า 6 ทำหน้าที่ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ลดอาการอักเสบต่างๆ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวหนัง ลดอาการแห้งกร้าน ริ้วรอยต่างๆ บนผิวหนัง
นอกจากนั้น งาม้อนมีวิตามินอี ช่วยป้องกันระบบประสาท ปอด กล้ามเนื้อ และดวงตาจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ป้องกันหลอดเลือดแดงหัวใจแข็งตัวและเสริมภูมิคุ้มกันอีกด้วย
การรับประทานงาดำ โดยเฉพาะที่มีการสกัดออกมาในรูปแบบน้ำมันสกัดเย็น จะส่งผลดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาปวดข้อ ปวดเข่า อาการอักเสบ บริเวณข้อต่อ กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น นอกจากนั้นหากมีการรับประทานควบคู่กับงาม้อน ที่สกัดออกมาในรูปแบบน้ำมันสกัดเย็นจะยิ่งช่วยส่งผลดียิ่งขึ้น
เนื่องจากสารเซซามินในน้ำมันงาดำ โอเมก้า 3 และสารเซซามอลในน้ำมันงาม้อน จะเสริมกันเพื่อช่วยต้านการอักเสบ และช่วยยับยั้งการสลายตัวของกระดูกอ่อนได้เป็นอย่างดี