อาการปวดข้อ ปวดเข่า เวลาขยับหรือลุกเดินจะมีเสียงก๊อบแก็บ อาจเกิดมาจากความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ รวมถึงน้ำหล่อเลี้ยงในข้อต่อแห้ง เลยทำให้เกิดการเสียดสีกัน ทำให้เกิดอาการอักเสบบวม หากปล่อยทิ้งไว้อาการอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจต้องรักษาด้วยการฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อเทียม หรือรายที่อาการหนักมาก ๆ อาจจะต้องถึงขั้นผ่าตัดหัวเข่าหรือข้อต่อกันเลยทีเดียว
ฉะนั้น การป้องกันหรือการหาวิธีการลดอาการเหล่านั้นเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด พยายามรักษาน้ำหนักตัวอย่าให้มากเกินไป ออกกำลังกายเบาที่ไม่กระแทกบริเวณข้อต่อมาก และรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงข้อเข่า รวมทั้งการรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยลดอาการปวดข้อปวดเข่า เช่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น น้ำมันถั่วดาวอินคาสกัดเย็น และน้ำมันงาดำ เป็นต้น จะช่วยเรื่องข้อกระดูกได้ดี ยิ่งไปกว่านั้นในน้ำมันงาดำเองจะมีสารเซซามิน ที่จะช่วยต้านการอักเสบ และเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงในข้อต่อได้ดีมาก ๆ อีกด้วย
น้ำมันงาดำสกัดเย็น IMMOR สกัดจากเมล็ดงาดำชั้นดีของไทย คัดเลือกเฉพาะเมล็ดที่สมบูรณ์ สกัดด้วยวิธีสกัดเย็นไม่ผ่านความร้อนหรือสารเคมีใด ๆ ควบคุมคุณภาพการสกัดทุกขั้นตอนตามมาตรฐาน อย. และ GMP
** สามารถกินก่อนนอนแทนหลังอาหารเย็นก็ได้ และจะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นอีกด้วย
โดยปกติแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์จะรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ บางรายสัปดาห์แรก อาการจะลดน้อยลงแบบรู้สึกได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และสามารถทานต่อเนื่องได้โดยไม่มีการสะสมในร่างกาย และในกรณีที่กินมากเกินความต้องการ ร่างกายก็สามารถขับออกได้เองตามธรรมชาติ
นอกจากนั้นการกินน้ำมันงาดำสกัดเย็นนั้น ก็สามารถกินได้หลายแบบเพื่อจุดประสงค์ต่างๆกันได้อีกด้วย ดังที่ ดร.พล ภูผาวัฒนากิจ แพทย์ศาสตร์ธรรมชาติบำบัดและการแพทย์แผนตะวันออก ได้ให้คำแนะนำไว้ในหนังสือ "ไม่เจ็บ ไม่แก่ ไม่ป่วย สวยด้วยน้ำมันงาดำ" ดังนี้
1. กินพร้อมอาหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของทั้งน้ำมันและอาหาร เนื่องจากวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดละลายในกรดไขมันจำเป็นเพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ อีกทั้งการกินไปพร้อมอาหารนี้ทำให้การย่อยง่ายขึ้น เหมาะสำหรับผู้ต้องการกินเพื่อบำรุง ผู้สูงอายุ ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เด็กเล็ก และวัยรุ่น
2. กินในขณะท้องว่าง ซึ่งจะมีผลเกี่ยวกับการขับของเสียและสารพิษออกจากเซลล์และอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะสมอง รวมถึงตับ ไต ลำไส้ ซึ่งเป็นอวัยวะในระบบขับถ่ายและกำจัดสารพิษของร่างกาย (Detoxification System) ซึ่งเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการเน้นจุดประสงค์นี้ บำรุงผิวพรรณ กันการเสื่อมของเส้นผม ท้องผูก สารพิษตกค้างสูง ระบบน้ำเหลืองเสีย พิษในเลือดมาก มีโรคเรื้อรังมานาน กินยาแผนปัจจุบันมาเยอะ และอื่นๆ
3. กินพร้อมกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อบรรเทาอาการผลข้างเคียงของการใช้ยา ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ายาแผนปัจจุบันนั้นมีสารก่อพิษในร่างกายและมีผลข้างเคียงต่อระบบภายใน การกินน้ำมันงาดำสกัดเย็น 1,000 ถึง 4,000 มิลลิกรัมพร้อมกับการกินยาแผนปัจจุบันจะช่วยปกป้องอวัยวะต่างๆ เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต และระบบย่อยอาหาร
4. กิน 2,000 ถึง 4,000 มิลลิกรัมในขณะท้องว่างก่อนนอน เพื่อส่งเสริมการนอนและผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งเกิดจากความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ถ้ามีการกินในลักษณะนี้อยู่เป็นประจำพร้อมสมุนไพรจำพวกลาเวนเดอร์และคาโมมายล์ จะทำให้สภาวะจิตใจ อารมณ์ และการนอนดีขึ้น
5. กินในขณะที่มีอาการปวดหรืออักเสบสูง เช่น ปวดข้อ มีไข้สูง ปวดแดง ร้อน (อาการ) โดยกิน 2,000 มิลลิกรัมทุกๆ 4 ชั่วโมง จนอาการดีขึ้นแล้วจึงลดปริมาณลง
เมื่อมีการเริ่มรับประทานอาหารเสริมหรือยาแผนปัจจุบันตัวใหม่โดยเฉพาะในปริมาณที่สูง ร่างกายอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวในระยะหนึ่ง ซึ่งมิได้หมายความว่าเราไม่ถูกหรือมีอาการแพ้อาหารเสริมตัวนั้นๆ โดยอาการก็อย่างเช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ มึนหัว คัน ง่วงนอน และอ่อนเพลีย
อาการเหล่านี้อาจจะเป็นเพราะร่างกายพยายามขับพิษหรือปรับตัวซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาของอาหารเสริมตัวใหม่ที่เรานำเข้าไปในร่างกาย โดยปกติแล้วก็แนะนำให้ลดปริมาณของอาหารเสริมนั้นลงจนอาการเหล่านี้หายไปแล้วจึงเพิ่มปริมาณขึ้นเพื่อผลสูงสุดในการใช้ ในทางการแพทย์แล้วทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันไม่มีการพบว่ามีผู้แพ้เมล็ดงาดำจากการบริโภค ยกเว้นเมล็ดงาดำนั้นมีสารปนเปื้อนหรือมีเชื้อราซึ่งนำไปสู่การก่อโรคในอนาคต